Cato Networks ผู้ให้บริการ Secure Access Service Edge (SASE) กล่าวว่า ความสามารถด้าน Network และ Security ที่สำคัญต่อธุรกิจนั้นต้องการความไว้วางใจและการไตร่ตรองอย่างมาก
“SASE อาจไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป แต่เช่นเดียวกับโครงการอื่นๆ ที่คุณควรวางแผนอย่างและเตรียมการ” Cato อธิบายไว้ใน how to adopt SASE – the Gartner-coined term for a cloud-native convergence of networking and security
Evin Safdia director of product marketing ของ Cato กล่าวว่า SDxCentral SASE ได้รับการออกแบบมาเพื่อ "นำความสามารถในการรักษาความปลอดภัยที่ครบถ้วนเพื่อลดการทำงานที่ซับซ้อนขององค์กร" หรือแม้แต่งานที่กินเวลาแต่สามารถใช้งานได้ง่าย ซึ่งรวมถึงการอัปเดต signature และ firmware, threat-hunting, และ site deployment.
“The configurations และ policies ที่ใช้เวลาหลายเดือนในการ architect, deploy และ evaluate สามารถทำได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน” Safdia กล่าวเสริม
การเตรียม SASE ที่เหมาะสมทำให้องค์กรต้องพิจารณาว่าเป้าหมายสุดท้ายและ use cases ของพวกเขาคืออะไร เช่น การลดการทำงานของอุปกรณ์, การย้ายจาก MPLS ไปยัง SD-WAN, secure remote access หรือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สาขา หรือแม้แต่ การการใช้ multi- และ hybrid-cloud use.
Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 80% ขององค์กรจะใช้ SASE เพิ่มขึ้นจาก 20% ในปี 2564
SASE สามารถนำไปใช้ได้เรื่อย ๆ ช่วยให้องค์กรเลิกใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และ MPLS เมื่อถึงเวลา แต่ถึงกระนั้น องค์กรต่างๆ ควรใช้การวางแผนอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงอุปสรรคที่อาจส่งผลกระทบต่อไทม์ไลน์การนำไปใช้ ตั้งแต่วันหยุดสำคัญๆ ไปจนถึงงบประมาณและความพร้อมของเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค เพื่อ "รับประกัน maximum ROI" Safdia กล่าว
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
Line ID : @nextwavethailand
Email : sales@nextwave.co.th